You can replace this text by going to "Layout" and then "Edit HTML" section. A welcome message will look lovely here.
RSS

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ราษฎรมีความซาบซึ้งจริงๆหรือ?

มีการโฆษณาเป็นประจำ ว่าลุงสมชายเหนื่อยยากเพื่อราษฎรมามากแล้ว เป็นราชาที่เสียสละที่สุด เป็นราชาแห่งราชาทั้งหลาย เป็นผู้วิเศษที่ราษฎรจะต้องซาบซึ้งให้มากที่สุด ที่แท้เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องของการบังคับ โดยมีกฎหมายห้าม ราษฎรดูหมิ่นหรือไม่เคารพกราบไหว้ลุงสมชาย โดยถือว่าเป็นอาชญากรรมร้ายแรงมีโทษจำคุกต่ำสุด 3 ปี ถึงสูงสุด 15 ปี โดยห้ามประกันและลงโทษแบบนับจำนวนครั้งหรือข้อความ ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ เป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อสังคมหรือไม่ ตามด้วยการโฆษณายกย่องสรรเสริญทุกค่ำเช้า และห้ามการวิจารณ์โดยเด็ดขาด ให้สดุดีและซาบซึ้งได้อย่างเดียวเท่านั้น

แม้บางเรื่องจะเห็นกันชัดๆ ว่าลุงเข้าข้างฝ่ายที่ไม่ชอบธรรมไม่ถูกต้อง เช่น ให้ท้ายพวกพันธมิตรเสื้อเหลือง ขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สนับสนุน และรับรองให้ทหารปล้นอำนาจของประชาชน สั่งการพวกผู้พิพากษาให้เล่นงานลงโทษพวกของรักสิน และคนเสื้อแดงอย่างไม่มีความเป็นธรรมที่เรียกกันว่า สองมาตรฐาน

เรื่องความดีและความเหนื่อยยากของลุงเป็นเรื่องที่พูดเอาเองข้างเดียว เพราะห้ามโต้แย้ง ห้ามพิสูจน์ ห้ามซักถาม ทั้งๆที่ราษฎรส่วนใหญ่ก็ต้องทำงานหนักแทบตลอดชีวิต ไม่ได้มีขบวนรถหรือ คนรับใช้คอยปรนนิบัติรายล้อม นายกรักสินที่ทำงานหนักและได้ผลงานมากกว่าลุง แต่ก็ยังมีคนกล่าวหาว่าเป็นการเอาหน้า เป็นประชานิยมที่ต้องการสร้างภาพและหาเสียง

ผู้ทรงความรู้และนักวิชาการทั้งหลาย ก็ไม่มีใครกล้าทักท้วงหรือวิจารณ์ลุง เพราะกลัวจะมีภัย ทุกคนต้องก้มหน้าสรรเสริญสดุดีลุง โดยไม่ต้องไปพิจารณาไตร่ตรองหรือใช้สติปัญญาใดๆทั้งสิ้น ลุงสมชายจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด โดยห้ามตั้งข้อสงสัยเด็ดขาด
การที่ประชาชนไทยแสดงความซาบซึ้งต่อลุงสมชาย จึงเป็นเรื่องที่ถูกบังคับทั้งทางกฎหมายและสังคมวัฒนธรรม โดยมีสื่อที่โหมโฆษณาแต่ความดีของลุงสมชาย เพื่อสร้างรูปการจิตสำนึกมารองรับ มิได้เกิดขึ้นเองอย่างที่มีการกล่าวอ้างกันแต่อย่างใด

ลุงสมชายไม่ใช่คนที่คนยากไร้ แต่เป็นเจ้าที่ร่ำรวยมั่งคั่งที่สุดในโลกด้วยทรัพย์สินไม่น้อยกว่าหนึ่งล้าน ล้านบาท แถมด้วยเงินที่เบิกจากงบประมาณไว้ใช้จ่ายอีกปีละกว่า 2,400 ล้านบาท

แม้ว่าลุงจะมีงานสงเคราะห์คนอนาถามากมาย แต่ลุงสมชายก็เบิกเอาจากงบประมาณแผ่นดินทั้งนั้น ขณะลุงสมชายมีกำไรจากธุรกิจและหุ้นจำนวนมหาศาลปีละหลายหมื่นล้านบาท แต่ลุงและครอบครัวก็ยังคงเดินสายออกรับบริจาคเงินเอาเข้ากระเป๋าแล้วเบิกงบ ประมาณมาใช้ คือ ได้ทั้งเงินได้ทั้งชื่อเสียง แถมยังโฆษณาทวงบุญคุณแบบไม่มีวันจบสิ้น ทั้งๆที่ร่ำรวยมหาศาล แต่ยังใช้เงินภาษีของราษฎรมากที่สุดกว่าราชาของประเทศใดๆ

ส่วนเรื่องที่ลุงสมชายแอบหนุนหลังพวกกบฏนั้น ก็ได้มีการเปิดเผยโทรเลขของทูตสหรัฐ ที่ได้พูดคุยกับพลเอกบัง เมื่อบ่ายวันที่ 20 กันยายน 2549 โดยนายพลบังยืนยันว่าลุงเป็นฝ่ายเรียกพวกตนเข้าพบ และออกข่าวทางทีวี โดยที่พวกตนไม่ได้เป็นฝ่ายขอเข้าพบลุงแต่อย่างใดและลุงก็มีอารมณ์ดี มีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใส แสดงอาการสบายใจโล่งอก เท่ากับเป็นการประกาศให้ราษฎรได้รู้ว่า ลุงสนับสนุนการโค่นล้มรัฐบาลรักสินที่มาจากการเลือกของราษฎรส่วนใหญ่ มาตั้งแต่ต้น และก็ทำให้พวกทหารรักษาลุงสมชายที่ก่อการกบฏเกิดความมั่นใจ ไม่ต้องหวั่นเกรงว่าจะมีความผิด เพราะลุงสมชายออกหน้าสนับสนุนเต็มที่

ประชาชนทุกคนก็ได้เห็นการถ่ายทอดทีวี ที่มีภาพของลุงสมชายและป้าสมจิต พร้อมทั้งเปรมิกาและผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อแสดงการรับรองการก่อกบฏยึดอำนาจของประชาชน แต่ไม่ใครกล้าพูดความจริงเพราะมีกฎหมายปิดปาก ห้ามวิจารณ์ลุงสมชายโดยเด็ดขาด...........

Read Comments
  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น