You can replace this text by going to "Layout" and then "Edit HTML" section. A welcome message will look lovely here.
RSS

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557

6 ตุลาคม 2516 วิชิตชัย อมรกุล

16 เมษายน 2014 เวลา 8:51 น.

Photographer: Neal Ulevich Capture: October 6 1976
วิชิตชัย  อมรกุล ...ชื่อ นี้อาจไม่คุ้นหูผู้คนเลยสักนิด  เป็นใครบางคนที่สังคมไทยไม่รู้จัก แต่สำหรับศิษย์เก่าชาวเดือนตุลาคม ชื่อนี้คุ้นหูอย่างยิ่ง เป็นชื่อที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจและความทรงจำมิลืมเลือน

วิชิตชัยเป็นบุตรคหบดี ตระกูลอมรกุล แห่ง จังหวัดอุบลราชธานี แม้เขาจะมาจากต่างจังหวัดไกลถึงสุดแดนอีสาน แต่เขามีอะไรบางอย่างที่พิเศษยิ่งกว่าเด็กวัยเดียวกัน เขาเป็นผู้ใหญ่เกินตัวมาตั้งแต่เล็ก  เป็นเด็กฉลาดสุขุม เรียนดีเยี่ยม ขยันขันแข็ง มีความรับผิดชอบ รักเพื่อน รักครอบครัว รักทุกคนที่อยู่รอบข้าง และมีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าอยู่เป็นนิตย์ วิชิตชัยสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยปี๒๕๑๘ และด้วยความเฉลียวฉลาดทุ่มเท เขาก็เข้ามาเป็นนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้สำเร็จ ท่ามกลางความปลาบปลื้ม ของ บิดามารดาและญาติพี่น้อง.... วิชิตชัยได้เป็นหนึ่งในชาว สิงห์ดำรุ่นที่ ๒๘

ช่วงหลัง14 ตุลาคม 2516นิสิต นักศึกษากลับเป็นที่เกลียดชังเคียดแค้นของผู้มีอำนาจที่สูญเสียผลประโยชน์ กลุ่มขวาจัดได้รวมกำลังกันใช้กลอุบายสกปรกนานัปการใช้สื่อมวลชนบางส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือสถานีวิทยุยานเกราะทำการกระพือข่าวลือและข้อมูลเท็จ ใส่ร้ายป้ายสีวิชิตชัยและเพื่อนให้เป็น"พวกบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์" เป็น "คอมมิวนิสต์" "พวกขายชาติ" กระทั่ง "ไม่ใช่คนไทย" แต่เป็น  "พวกต่างชาติจีนญวน"  กระทั่งประกาศผ่านวิทยุยานเกราะอย่างเปิดเผยว่า จะ 
 "ฆ่านักศึกษาจำนวนถึง ๓๐,๐๐๐ คน เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์"



นิสิตนักศึกษาประชาชน ถึงจุดสุดท้ายของความอดกลั้น และระดมพลชุมนุมต่อต้าน จอมพลถนอม ในบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๑๙ อีกทั้งจัดการแสดงละครกลางแจ้ง เรื่องการฆ่าแขวนคอสองศพที่นครปฐม

แต่ อนิจจา ภาพถ่ายการแสดงละครฆ่าแขวนคอในครั้งนั้น ได้ถูกนำไปดัดแปลงให้กลายเป็นภาพแขวนคอบุคคลระดับสูงขึ้น ตีพิมพ์ในหน้าหนังสือพิมพ์บางฉบับ และ ได้กลายเป็นเครื่องมือของพวกฝ่ายขวาจัด ใช้ปลุกระดมความเกลียดชังนิสิตนักศึกษาระดมกำลัง กระทิงแดง ลูกเสือชาวบ้าน และกลุ่มนวพล ประกอบกับกองกำลัง ตำรวจนครบาล, ตำรวจตระเวนชายแดน, ตำรวจพลร่ม และ ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ซึ่ง ล้วนติดอาวุธปืนกลหนักเบา เครื่องยิงลูกระเบิด กระทั่งปืนต่อสู้รถถัง และปืนไร้แรงสะท้อน รวม ศูนย์เข้าปิดล้อมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในกลางดึกคืนวันที่ ๕ ตุลาคม ทั้งที่นิสิตนักศึกษาที่ถูกปิดล้อมมีเพียงสองมือเปล่าที่ปราศจากอาวุธใดๆ

ช่วงเช้าวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙  ฝ่าย ปิดล้อมเริ่มใช้อาวุธทั้งหนักเบา ยิงถล่มเข้ามาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถี่ยิบรุนแรงยิ่งขึ้นทุกที กระทั่งถึงช่วงสายก็กลายเป็นการยิงถล่มอย่างบ้าเลือดเมามัน นิสิตนักศึกษาบางส่วนเริ่มหาทางหลบหนี คนที่ถูกจับได้ก็ถูกทรมาน ถูกยิงทิ้ง ถูกฆ่าอย่างทารุณกลางถนน ต่อหน้าสายตาผู้คนที่มุงดู บางคนถูกจับแขวนคอใต้ต้นไม้แล้วเอาท่อนไม้ เก้าอี้เหล็ก ระดมตีอย่างบ้าคลั่ง บางคนถูกเอาลิ่มตอกอก ถูกราดน้ำมัน หรือเอายางรถวางทับแล้วจุดไฟเผาทั้งเป็น นักศึกษาหญิงถูกฆ่า แล้วเอาท่อนไม้กระแทกใส่ช่องคลอด ฯลฯ

วิชิตชัย  อมรกุล  เข้า ร่วมการต่อสู้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ครั้งนี้ตั้งแต่ต้น และด้วยความเป็นนักกีฬาที่มีร่างกายแข็งแรงปราดเปรียว เขาจึงอาสาเข้าประจำหน่วยรักษาความปลอดภัยแนวหน้าสุด เฉกเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา วิชิตชัยทำหน้าที่อย่างถึงที่สุด ทั้งหมอบ ทั้งวิ่งฝ่าห่ากระสุนเข้าช่วยเพื่อนๆ ที่บาดเจ็บคนแล้วคนเล่า แต่...ขณะที่วิชิตชัยวิ่งเข้าไปช่วยเพื่อนอีกคนที่ถูกยิงล้มคว่ำอยู่ตรงหน้า ประตูใหญ่ ตัวเขาทรุดฮวบลงทันที... อนิจจา วิชิตชัย ถูกยิงด้วยปืนเอ็ม ๑๖ เข้าที่ท้อง กระสุนทะลุหลังเลือดสาดกระเซ็นเต็มพื้นซีเมนต์  กลุ่มกระทิงแดง ลูกเสือชาวบ้าน และนวพล ที่กระหายเลือดสุดขีด


พา กันเข้ารุมทึ้งร่างวิชิตชัย เอาเชือกเข้าผูกคอ ลากเอาร่างของเขาไปตามพื้นแล้วเอาท่อนไม้ เก้าอี้เหล็ก ฟาดซ้ำไม่นับครั้งอย่างเมามัน จากนั้นก็เอาเชือกคล้องเข้ากับกิ่งไม้ กระตุกดึงเอาร่างของเขาขึ้นไปแขวนคอห้อยอยู่กับกิ่งไม้ใหญ่ ถึงกระนั้นก็ยังมิหนำใจ ยังใช้ท่อนไม้ เก้าอี้เหล็ก ฟาดซ้ำอีกนับครั้งไม่ถ้วน พร้อมคำก่นด่าอย่างหยาบคายไม่หยุดปาก ท้ายสุดก็ปลดเชือกทิ้งร่างของวิชิตชัยลงมา เอาน้ำมันราดและยางรถวางทับแล้วจุดไฟเผา

ทั้งหมดนี้ ต่อหน้าฝูงชนที่มุงดูแน่นขนัด และต่อหน้ากองกำลังตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไทย ที่กำลังปิดล้อมยิงถล่มนักศึกษาที่อยู่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



 http://willmayeworld.wordpress.com/visual-analysis/                   http://www.bangkokpost.com





ภาพความบัดซบ อันเป็นบาดแผลทางประวัติศาสตร์ ของชาติ  . . . . . . . . . . . . . . . . โดยทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด รู้เห็นเป็นใจ

ต้องการอ่านเพิ่มเติม(เอกสารword)http://bit.ly/1gDYtZB

ที่มา คุณ Sira Rungsira www.tfn5.info

Read Comments
  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น